แบตเตอรี่รถเลือกใช้แบบไหนดี ?

แบตเตอรี่รถเลือกใช้แบบไหนดี ?



...

แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นระบบสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่เก็บสำรองไฟในรถ และเพื่อให้รถของคุณอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ตลอด

ควรหมั่นเช็กและคอยดูแลแบตเตอรี่ของคุณอยู่เสมอ และในประเภทของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่รถยนต์ในปัจจุบันถูกผลิตออกมาให้มีกำลังไฟทน

ทานมากขึ้น ใช้งานได้นานมากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานไฟฟ้าในรถ ที่ทุกวันนี้มีการติดตั้งระบบใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้น มาดูกันว่าเราต้องเลือกให้

เหมาะกับการใช้งานของเรา

1.แบตเตอรี่แบบน้ำ

แบตเตอรี่น้ำ หรือ แบตเตอรี่ธรรมดา คือแบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด ส่วนผสมภายในแบตเตอรี่นั้นประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับพลวง

แบตเตอรี่ชนิดน้ำนั้นเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในการดูแลรถพอสมควร เพราะต้องหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่นและคอยเติมอยู่สม่ำเสมอ เพื่อให้

แบตเตอรี่น้ำนั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา

ข้อดีของแบตเตอรี่แบบน้ำ
  • ราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แห้ง
  • ทนทานต่อการรับโหลดทั้งการประจุและคายประจุ
  • อายุการใช้งานของแบตแบบน้ำ จะนานกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง ยิ่งถ้าดูแลรักษาอย่างดี อาจจะนานกว่าแบตแห้ง
ข้อเสียของแบตเตอรี่แบบน้ำ
  • ต้องคอยดูแลระดับน้ำอยู่เสมอ หากลืมเติมน้ำกลั่นมีโอกาสพังได้ง่าย
  • มีการระเหยหรือโอกาสที่จะรั่วหกได้
  • มีโอกาสขึ้นขี้เกลือได้ง่าย
  • ค่าแอมป์ และ ค่า CCA น้อยกว่าแบตเตอรี่แห้ง


2.แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง

แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้ง มีพัฒนาขึ้นมาจากชนิดน้ำ โดยตลอดอายุการใช้งานไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย ซึ่งอันที่จริงแล้วแบตประเภทนี้ไม่ได้แห้ง

สนิทตามชื่อ ยังคงมีของเหลวภายในอยู่ดี แบตเตอรี่รถยนต์แบบแห้งจะมีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่โรงงาน พร้อมจัด

จำหน่าย

ข้อดีของแบตเตอรี่แบบแห้ง
  • ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
  • ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • ปล่อยแบตเตอรี่ทิ้งไว้ในสภาพไม่มีไฟประจุได้นานกว่าแบตประเภทเติมน้ำกลั่น
  • มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าแบบน้ำ แอมป์สูงกว่า และ ค่า CCA เยอะกว่า
ข้อเสียของแบตเตอรี่แบบแห้ง
  • ราคาที่สูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ
  • มีรูระบายแบบทางเดียว และมีขนาดเล็ก จึงมีโอกาสอุดตันได้ง่าย หากเกิดอุดตันขึ้นมาก็อาจเกิดปัญหาแรงดันภายในหรือความร้อนสูงได้
  • ถ้าเป็นแบบผนึกซีล หากซีลของช่องหายใจหลุด อาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เนื่องจากมีความชื้นเข้าไปภายใน


3. แบตเตอรี่กึ่งแห้ง

แบตเตอรี่กึ่งแห้ง คล้ายกับแบตเตอรี่แบบแห้ง จะมีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟจากโรงงานมาแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาในการชาร์จไฟก่อนติดตั้ง

ใช้งาน แต่แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง จะยังมีรูเติมน้ำกลั่นอยู่ ซึ่งตลอดอายุการใช้งานยังอาจจะต้องมีการเติมน้ำกลั่นเพิ่มเติมบ้างประมาณ 1-2

ครั้งต่อปี และหากเก็บไว้นานเกินกว่า 6 เดือน ควรมีการตรวจสภาพแบตก่อนนำมาใช้งาน ควรตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตด้วย ส่วนอายุการใช้งาน

ของแบตเตอรี่นั้น ประมาณ 1-2 ปี หรือไม่เกิน 3 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก

ข้อดีของแบตเตอรี่กึ่งแห้ง
  • ราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง
  • ดูแลรักษาไม่ยาก เติมน้ำกลั่น 1-2 ครั้งต่อปีเท่านั้น
  • มีความทนทานสูง
ข้อเสียของแบตเตอรี่กึ่งแห้ง
  • ราคาที่สูงกว่าแบตเตอรี่น้ำ
  • ต้องคอยดูแล สังเกตระดับน้ำกลั่นอยู่บ้าง นานๆ ครั้ง
  • หากเก็บค้างไว้นาน ไม่นำมาใช้ จะเสื่อมได้ไว อายุการใช้งานจะสั่นลง


4. แบตเตอรี่แบบไฮบริด

แบตเตอรี่ไฮบริดได้รับการพัฒนามาจากแบตเตอรี่น้ำ ซึ่งวัตถุดิบหลักในการผลิตแบตเตอรี่ชนิดนี้จะเป็นโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับแคลเซียมเฉพาะ

แผ่นธาตุลบ เพื่อแก้ไขข้อเสียของแบตเตอรี่น้ำที่มีการระเหยของน้ำกลั่นสูง โดยแบตเตอรี่ไฮบริดนี้มีอัตราการระเหยของน้ำกลั่นน้อยกว่ารุ่นธรรมดา

จึงสามารถใช้ได้นานถึง 15,000 กม. หรือ ประมาณ 3 เดือน

ข้อดีของแบตเตอรี่แบบไฮบริด
  • ราคาถูกกว่าแบตเตอรี่รถยนต์แห้ง
  • ทดแทนกันได้แบตเตอรี่แบบน้ำได้ มีความทนทานมากกว่า
  • ดูแลรักษาง่ายกว่าแบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ
ข้อเสียของแบตเตอรี่แบบไฮบริด
  • ราคาแพงกว่าแบตเตอรี่รถยนต์น้ำเล็กน้อย
  • ยังต้องเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่อยู่ ต้องควรตรวจเช็กระดับน้ำ

โดยรวมแล้วแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี หากรถเราเริ่มมีอาการ รถสตาร์ทติดยาก ระบบไฟสว่างน้อยลง น้ำกลั่นแห้งไวกว่าปกติ

แบตเตอรี่ มีรูปทรงบวมขึ้น หาก รถที่เรารักของเราเริ่มมีอาการเหล่านี้แนะนำเข้ามาที่ Scg performance เพื่อเข้ามาตรวจสอบและดูอาการ

ทางที่ศูนย์เรามีช่างชำนาญการที่จะให้คำแนะนำผู้ที่มาใช้บริการและดูแลรถที่รักของทุกท่าน ให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม


ที่มา[k: chobrod.com



Tags :

บทความอื่นๆ


รอบเดินเบาไม่นิ่ง จบปัญหาได้จริง ถ้าแก้ถูกจุด!

ต้นตอหลักของปัญหารถสั่นรุนแรงทุกครั้งที่สตาร์ทอาจมาจาก รอบเดินเบาไม่นิ่ง แก้ยังไงไปดูกัน


เบรกและยาง ระบบช่วงล่างที่ห้ามละเลย!

ระบบช่วงล่าง เป็นอีกส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนรถยนต์ โดยเฉพาะระบบเบรคและยางที่ทำหน้าที่ในการควบคุมรถ ความปลอดภัยของผู้ใช้ขึ้นอยู่กับการดูแลในส่วนนี้ แต่จะมีวิธีดูแลอย่างไรบ้าง เราจะมาแชร์ให้ได้ทุกคนรู้กัน


เปิดตำรา 5 วิธีดูแลรถยนต์ด้วยตัวเองเบื้องต้น 101

เซฟรถให้อยู่กับเราไปนานๆ ง่ายๆ เพียงแค่หมั่นดูแล 5 จุดสำคัญนี้อยู่เสมอ


แชร์ทริค! เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตอนไหน ดูแลยังไงไม่ให้เครื่องพัง!

หากไม่อยากให้เครื่องยนต์ทำงานไม่มีสิทธิภาพ น้ำมันเครื่องคือของเหลวตัวสำคัญที่ไม่ควรละเลย